นอกจากการเช่านั่งร้านสายไหม เช่าแบบ เสาเหล็กเช่าแบบเทถนนคอนกรีต แล้วเรายังมีอุปกรณ์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของชุดนั่งร้านให้กับลูกค้าที่สนใจเช่าด้วย ส่วนมากแล้วมักเกิดกับลูกค้าที่มีนั่งร้านของตนเองอยู่แล้วแต่บางชิ้นส่วนอาจเสื่อมสภาพ สูญหาย ฯลฯ
เพียงแค่ค้นหาให้เช่านั่งร้านใกล้ฉัน จากนั้นเข้ามาที่นี่ตามด้วยการเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ ทุกอย่างก็เรียบร้อย สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย เช่าอุปกรณ์เสริม เช่านั่งร้าน ราคาไม่แพงมีอยู่จริงไม่ว่าจะเป็นโครงตั้งนั่งร้าน ฝาครอบนั่งร้าน กากะบาด แผ่นทางเดิน บันไดนั่งร้าน ขาค้ำยัน ล้อยาง
ล้อยูรีเทนมีเบรกทุกขนาด ฐานรองเสา ฐานรองปรับระดับ ฐานรองปรับระดับตัว U ข้อต่อตรง ฐานรองตัว U แคลมป์มือเสือ แขนยึด เหล็กแป๊ปกลม เหล็กกล่อง และอื่น ๆ ตอบโจทย์ทุกการลงทุน
✅ เรามีคำตอบ! บริการเช่านั่งร้านแบบครบวงจร
-
เช่านั่งร้านแบบเหล็ก / แบบเทถนนคอนกรีต
-
มีให้เลือกหลายขนาด รองรับตั้งแต่งานเล็กถึงอาคารสูง
-
เช่าแบบรายวัน รายเดือน หรือเหมายาวได้หมด
-
ใช้วัสดุเกรดพรีเมียม แข็งแรง ปลอดภัยทุกชิ้น
-
พร้อมส่งทั่วไทย คิดราคาตามระยะทางจริง
-
มีทีมแนะนำวิธีใช้งานและช่วยวางแผนฟรี
🔍 ค้นหา “เช่านั่งร้านใกล้ฉัน” แล้วคุณจะพบเรา!
เราให้บริการครอบคลุมทุกจังหวัดสายไหม ไม่ว่าคุณจะอยู่ใน:
ฝากใว้ด้วยบริการของเราสายไหม
#เช่านั้งร้านสายไหม
#ให้เช่านั่งร้านแบบเหล็กพีพีแบบเหล็กสายไหม
#แบบเสาสายไหม
#แบบถนนสายไหม
#เช่าแบบเสาเหล็กสายไหม
#แบบเสากลมให้เช่าสายไหม
#เช่าเสาค้ำยันสายไหม
#เช่าแบบเทถนนคอนกรีตสายไหม
เส้นทางสายไหม (อังกฤษ: Silk Road หรือ Silk Route) เป็นชุดเส้นทางการส่งการค้าและวัฒนธรรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของอันตรกิริยาทางวัฒนธรรมผ่านภูมิภาคของทวีปเอเชียที่เชื่อมตะวันตกและตะวันออกโดยการโยงพ่อค้าวาณิช ผู้แสวงบุญ นักบวช ทหาร ชนเร่ร่อนและผู้อาศัยในเมืองจากจีนและอินเดียไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างเวลาหลายสมัย[1]
เส้นทางสายไหมมีความยาว 6,437 กิโลเมตร (4,000 ไมล์) ได้ชื่อมาจากการค้าผ้าไหมจีนที่มีกำไรมากตลอดเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 220) ราชวงศ์ฮั่นขยายเส้นทางการค้าส่วนเอเชียกลางราว 114 ปีก่อน ค.ศ. ส่วนใหญ่ผ่านคณะทูตและการสำรวจของผู้แทนทางการทูตจักรวรรดิจีน จางเชียน (Zhang Qian)[2] ชาวจีนสนใจมากกับความปลอดภัยของผลิตถัณฑ์การค้าของพวกตนและขยายกำแพงเมืองจีนเพื่อประกันการคุ้มครองเส้นทางการค้านี้[3]
การค้าบนเส้นทางสายไหมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาของอารยธรรมจีน อนุทวีปอินเดีย เปอร์เซีย ทวีปยุโรปและคาบสมุทรอาหรับ โดยเปิดอันตรกิริยาทางการเมืองและเศรษฐกิจทางไกลระหว่างอารยธรรม[4] แม้ผ้าไหมเป็นสินค้าหลักจากจีน แต่ก็มีการค้าสินค้าอื่นจำนวนมาก ศาสนา ปรัชญาหลายความเชื่อและเทคโนโลยีต่าง ๆ จนถึงโรคก็ไปมาตามเส้นทางสายไหมเช่นกัน นอกเหนือจากการค้าทางเศรษฐกิจแล้ว เส้นทางสายไหมยังใช้เป็นการค้าทางวัฒนธรรมในบรรดาอารยธรรมตามเครือข่ายเส้นทางด้วย[5]
ผู้ค้าหลักระหว่างยุคโบราณ คือ ชาวจีน เปอร์เซีย กรีก ซีเรีย โรมัน อาร์มีเนีย อินเดียและแบกเตรีย (Bactrian) และตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 8 เป็นชาวซอกเดีย (Sogdian) ระหว่างการเจริญของศาสนาอิสลาม พ่อค้าอาหรับกลายมาโดดเด่น
ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 38 พ.ศ. 2557 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ มีมติให้ขึ้นทะเบียนเส้นทางสายไหมในจีน คาซัคสถาน และคีร์กีซสถาน เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เส้นทางสายไหม : โครงข่ายเส้นทางฉนวนฉางอาน-เทียนชาน โดยให้เหตุผลว่า เส้นทางนี้เป็นที่ยอมรับกันว่ามรดกทางอารยธรรของมนุษยชาติ ในฐานะเป็นเส้นทางโบราณในการติดต่อค้าขายและสื่อสารระหว่างตะวันออกกับตะวันตก